หัวข้อหลัก : ประสบการณ์เทรดหุ้นครั้งแรกในชีวิต
หัวข้อรอง : การเทรดหุ้น Forex และ Stock ครั้งแรกในชีวิต
ส่วนนำ : การเทรดหุ้นเป็นเรื่องง่ายจริงหรือไม่?
เนื้อหา : การเทรดหุ้นนั้นหลายคนเห็นบอกว่าง่ายและสบายหมากไม่ว่าจะเป็นแบบ Position Trading และ Active Trading แต่หลายคนก็บอกกันว่า Active Trading นั้นยากกว่าการเทรดแบบ Position Trading หลายเท่ามากเพราะเรานั้นจะต้องตามข่าวแบบใกล้ชิดและจะต้องมีไหวพริบที่ดีกว่าเราจะซื้อหรือขายซึ่งตอนแรกๆผมก็ลอง Position Trading ในแอป "DIME!" ในเดือนแรกก่อนหุ้นตัวแรกที่ผมซื้อก็คือ "TSLA" หรือ Tesla ซึ่งตอนแรกผมก็เห็น Tesla ก็ขึ้นเยอะอยู่พอตัวแต่เพราะว่า Tesla ติดกับ Donald Trump มากเกินไปผมก็เลยตัดสินใจขายหุ้นตัวนั้นแลัวไปซื้อหุ้น MSFT หรือ Microsoft ซึ่งตอนนั้น Microsoft กำลังขึ้นเยอะมากผมก็เลยเพิ่มทุนลงไปอีกประมาณ 400+ ซึ่งผลตอบรับก็ดีเป็นอย่างมากแต่เพราะว่าหุ้นตัวเดียวมันยังไม่ทำให้ผมสะใจผมก็เลยซื้อตัวใหม่ไปด้วยก็คือ "UNH" หรือ UnitedHealth Group ซึ่งข่าวตอนนั้นผู้บริหารของบริษัทนั้นก็เพิ่งลาออกจากงานเลยทำให้หุ้นตกเป็นอย่างมากผมก็เลยตัดสินใจลงทุนไป 100 บาทซึ่งผลตอบรับก็ดีแต่ไม่ได้ดีเท่าที่คิดไว้ผมเลยปล่อยไว้ประมาณ 1 เดือนแล้วกลับมาดูอีกทีก็เห็นว่ามันก็ยังไม่ได้ขึ้นเยอะเท่าที่คิดก็เลยถอนออกแล้วไปลงกับ "NVDA" หรือ Nvdia หุ้นตัวนี้มีหลายคนบอกว่ากำลังมาแรงก็เลยลงทุนไป 100 บาท เหมือนกันจนมาถึงตอนนี้ผลตอบรับก็ดีมากผมก็เลยปล่อยทิ้งไว้แล้วหันมาลอง Active Trading เพราะผมคิดว่ามันน่าจะง่ายเพราะว่าผมก็เรียนมาพอตัวและผมก็มีทุนในระดับหนึ่งผมก็เลยใช้แอป "FBS" ซึ่งหุ้น Active ที่ผมลองเล่นดูคือ "US100" ซึ่งผมก็ลงไป 0.01 และได้กำไรมา 1.02$ หรือประมาณ 33.24 บาท ภายในไม่กี่นาทีตอนนั้นผมดีใจมากก็เลยลงตัวใหม่คือ "USDJPY" ผมลงไปเท่าเดิมและได้กำไรมา 0.46$ หรือประมาณ 14.99 บาท แต่ตอนนั้นผมโลภมากก็เลยลงไปมั่วและไม่ได้ดูตัวหุ้นที่ผมซื้อผมก็เลยเสียไป 2.50$ หรือประมาณ 81.48 บาทผมเห็นว่าผมโลภมากเกินไปและยังขาดประสบการณ์อยู่ผมก็เลยพักก่อนเพราะผมยังมีอีกหลายอย่างก็เลยหยุดพอก่อนเพราะผมยังต้องเรียนอีกหลายอย่างและหยุดโลภมากด้วย
ส่วนสรุป : การลงทุนมีความเสี่ยงจริงแต่ถ้าเรารู้วิธีการลงทุนและคอยตามข่าวเสมอเราก็ยังได้กำไรอยู่บ้างแต่สิ่างสำคัญที่เราต้องระงับไว้ให้ได้เลยก็คือความโลภของเรา
.jpg)

No comments:
Post a Comment